น้ำหมักชีวภาพ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่สามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ย และป้องกันกำจัดศัตรูพืชแทนการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ น้ำหมักชีวภาพประกอบด้วยสารอินทรีย์ต่างๆหลายชินด เช่น ฮอร์โมน เอนไซม์ และธาตุอาหารต่างๆ เป็นสารเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลงให้พืช เอนไซม์บางชนิดจะทำหน้าที่ย่อยอินทรีย์วัตถุให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์ และเป็นอาหารของพืช ฮอร์โมนที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นก็เป็นประโยชน์กับพืชถ้าให้ในปริมาณเล็กน้อย แต่หากเข้มข้นเกินไปจะทำให้พืชตายได้ ดังนั้น การใช้น้ำหมักชีวภาพจำเป็นต้องให้ในอัตราเจือจาง
ชนิดของน้ำหมักชีวภาพ
อาจแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1) สูตรบำรุงใบและลำต้น ได้จากการหมักพืชและเศษอาหาร ปลา และหอย
2) สูตรบำรุงดอกและผล ได้จากการหมักผลไม้สุกต่างๆ
3) สูตรป้องกันศัตรูพืช ได้จากการหมักพืชสมุนไพรต่างๆ
น้ำหมักชีวภาพสูตรเร่งการเจริญเติบโต
เศษผักชนิดอวบน้ำ 1 ส่วน
ผลไม้สุกทุกชนิด 2 ส่วน
หอยเชอรี่ 1 ส่วน
หัวเชื้อจุลินทรีย์ ร้อยละ 10 ของปริมาตรน้ำหมัก
กากน้ำตาล 1 ส่วน
เตรียมวัสดุหมักตามสูตรกำหนด ถ้าสามารถบดให้ละเอียดได้ยิ่งดี ใส่ลงในถังหมัก เติมกากน้ำตาลเติมน้ำให้พอท่วมวัสดุ แล้วเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ประมาณ ร้อยละ 10 ของปริมาตรน้ำหมัก ผสมให้เข้ากัน ปิดฝาหมักทิ้งไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ นำไปผสมน้ำหนึ่งต่อหนึ่งพ่นฉีดพ่นสัปดาห์ละครั้ง
น้ำหมักชีวภาพ
สูตรเร่งการออกดอกและบำรุงราก มะละกอสุก 20 กิโลกรัม
ฟักทองแก่จัด 20 กิโลกรัม
กล้วยน้ำว้าสุก 20 กิโลกรัม
หัวเชื้อจุลินทรีย์ 2 ลิตร
กากน้ำตาล 5 ลิตร
น้ำสะอาด 100 ลิตร
หั่นผลไม้ให้ละเอียดใส่ในถังผสมให้เข้ากันเติมเชื้อจุลินทรีย์และกากน้ำตาล เติมน้ำให้ท่วมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาหมักทิ้งไว้ 7-10 วัน จึงนำไปผสมกับน้ำ 1 : 1000 ฉีดพ่นทางใบหรือราดลงดินช่วงที่พืชผักติดดอกสัปดาห์ละครั้ง
น้ำหมักชีวภาพ
สูตรฆ่าเพลี้ยและไรแดง ใบสาบเสือ 5 กิโลกรัม
ใบน้อยหน่า 5 กิโลกรัม
ใบหรือดอกดาวเรือง 5 กิโลกรัม
ใบสะเดา/เมล็ด 5 กิโลกรัม
โหระพา 2 กิโลกรัม
กระเทียม 1 กิโลกรัม
โขลกส่วนผสมหรือทุบให้แตก หมักในถังที่มีส่วนผสมของเหล้าขาว 40 ดีกรี (หรือใช้เอทานอล 70% เจือจาง) และน้ำส้มสายชู 5% อัตราส่วน 2 : 1 ให้ท่วมวัสดุหมักแล้วเติมหัวเชื้อจุลินทรีย์ร้อยละ 10 ของปริมาตรน้ำหมัก หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน
วิธีใช้ผสมสารสกัดกับน้ำอัตราส่วน 1 : 5 และเติมน้ำสบู่เหลว (สารจับใบ) เล็กน้อย แล้วนำไปฉีดพ่นทุกๆ 3 วัน
น้ำหมักชีวภาพสูตรกำจัดหนอนกัดกินใบและหนอนใยผัก
ใบสะเดา 2 ส่วน
ตะไคร้หอม 2 ส่วน
ขมิ้นชัน 1 ส่วน
ข่าแก่ 1 ส่วน
โขลกวัสดุให้แหลก หมักผสมกับน้ำ 8 ส่วนทิ้งไว้ 1 คืนจึงนำไปฉีดพ่น
น้ำหมักชีวภาพสูตรควบคุมหนอน แมลงวันและด้วงเต่าแตง
ขี้เถ้าไม้ และปูนขาวอย่างละ 1 กิโลกรัม ผสมน้ำ 8 ลิตรทิ้งไว้ให้ตกตะกอนประมาณ 1 คืน นำไปฉีดพ่นทุก 5 วัน
ในการปลูกแตงกวา สามารถใช้น้ำหมักชีวภาพสูตรต่างๆเพื่อป้องกันเพลี้ยไฟ (Haplotrips floricola) เพลี้ยอ่อน (Aphids gossypii) ไรแดง (Tetramychus spp.) เต่าแตงแดงและเต่าแตงดำ
สำหรับโรคราน้ำค้าง ใบด่าง ผลเน่า จะใช้บาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus subtilis : BT) หมักกับกากน้ำตาลเติมอากาศขยายเพิ่มจำนวน ฉีดพ่นทุกสัปดาห์
ประโยชน์ของการใช้น้ำหมักชีวภาพ
1) ลดค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการเพาะปลูก
2) ผลผลิตปราศจากสารเคมีตกค้าง ปลอดภัยต่อการบริโภค
3) ช่วยปรับสภาพของดินให้ดีขึ้น ดินโปร่ง ร่วนซุย และลดการเสื่อมสภาพของดิน
4) ช่วยในการย่อยสลายอินทรีย์สารในดินได้ดีและเร็วขึ้น
0 comments:
Post a Comment
เชิญร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น