Showing posts with label eggplant. Show all posts
Showing posts with label eggplant. Show all posts

27 March 2009

ผักต่างสี.....มีดีต่างกัน

0 comments

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

www.dreamstime.com

ผักสีเขียว เป็นผักธรรมดาทั่ว ๆ ไปที่มีมากที่สุดในโลก สีเขียวมาจากคลอโรฟิลล์ซึ่งดีสำหรับดวงตา ผักสีเขียวส่วนมากเป็นผักกินใบ ผักตระกูลบวบ (Gourd) ซึ่งรวมผักจำพวกแตงและซูกินีด้วย ผักประเภทนี้มีสรรพคุณในการขับปัสสาวะ


ผักสีขาว กะหล่ำปลีถือเป็นผักสีขาว (แม้จะมีสีเขียวอยู่บ้างก็เป็นสีเขียวอ่อนตรงโคนกาบ) เป็นผักที่รู้จักบริโภคกันทั่วโลก เป็นผักที่มีสารต้านมะเร็งและมีคุณสมบัติในการย่อยอาหาร
ในเกาหลีปลูกกะหล่ำปลีมากที่เกาะเซจู กะหล่ำปลีชอบดินทรายและอากาศเย็น (ระหว่าง 15 - 20 องศา) ปัจจุบันที่เกาะเซจูแห่งนี้นับเป็นแหล่งผลิตกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุด มีพื้นที่ปลูกประมาณ 1,500 เฮคแตร์ หรือ ประมาณ 9,375 ไร่ และสามารถจะปลูกกะหล่ำปลีได้ตลอดทั้งปี


ผักสีแดง มะเขือเทศจัดอยู่ในประเภทผักสีแดง สีแดงมาจากไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งช่วยชะลอความแก่ และเมื่อหลายปีก่อนมีบทความทางวิชาการยืนยันว่าไลโคปีนสามารถป้องกันมะเร็งในตับอ่อนได้ ทำให้ผู้คนหันมาสนใจบริโภคมะเขือเทศกันมากขึ้น

ผักสีม่วง สีม่วงในมะเขือม่วงซึ่งเป็นผักในตระกูลมะเขือยาว (Aubergines) จะมีสีม่วงเข้ม บางครั้งดูเหมือนจะเป็นสีดำ สีม่วงเข้มดังกล่าวมาจากสีของแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่อยู่ในผัก แอนโธไซยานินมีคุณสมบัติในการป้องกันสารอันตรายไม่ให้สะสมในเส้นเลือด ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และเส้นเลือดในสมองแตก สารที่มีอยู่ในมะเขือม่วงนี้เรียกว่า "สโคโพเลติน" (Scopoletin) และ "สโคโพเลติน" ช่วยยับยั้งการเกร็งของกล้ามเนื้อในร่างกาย ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้รับประทานมะเขือม่วงเพื่อรักษาอาการทางประสาทด้วย


ผักสีเหลือง พริกยักษ์หรือพริกหวานมีหลายสี ทั้งเขียว แดงและเหลือง สีเหลืองของพริกหวานประกอบด้วยเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ซึ่งเป็นตัวควบคุมการเพิ่มออกซิเจน หรือ Oxidation ของสารในร่างกาย ซึ่งจะมีผลต่อการชะลอความแก่และ ป้องกันมะเร็ง

นอกเหนือจากพริกหวานแล้ว ผักที่มีสีเหลือง หรือผักที่มีเบต้าแคโรทีนสูงอีกบางชนิดที่น่าจะจัดอยู่ในผักสีเหลืองได้ คือ ฟักทองและแครอท โดยเฉพาะแครอทนั้น แม้ไม่ใช่ผักของไทยแต่ก็มีปลูกกันมากแล้ว โดยเฉพาะทางพื้นที่ที่สูงในภาคเหนือ

ภาพประกอบ www.dreamstime.com

Read full story

17 September 2008

การเพาะเลี้ยงเชื้อราปฏิปักษ์

0 comments

เชื้อราปฏิปักษ์ หมายถึงเชื้อราที่มีความสามารถในการต่อสู้กับศัตรูพืชได้ ซึ่งมีหลายประเภท คือ เชื้อราที่ต่อสู้กับแมลง โดยสามารถเข้าทำลายแมลง หรือเชื้อราที่เข้าทำลายเชื้อราก่อโรคในพืชหลายชนิด เช่น เชื้อราโรคเหี่ยว เป็นต้น

โรครากและโคนเน่า ซึ่งเกิดจากเชื้อราเป็นโรคที่พบได้บ่อยในการปลูกมะเขือม่วง การนำเชื้อราปฏิปักษ์มาใช้จะช่วยควบคุมโรคดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยสูงต่อผลผลิตและเกษตรกร เชื้อราปฏิปักษ์ที่รู้จักกันดีคือ เชื้อราไตรโคเดอร์มา (Trichoderma spp.) ซึ่งเกษตรกรสามารถทำการเพาะเลี้ยงได้เอง

 

วิธีการเพาะเลี้ยงเชื้อราไตรโคเดอร์มา

วัสดุและอุปกรณ์

1. หัวเชื้อไตรโคเดอร์มาผง
2. ปลายข้าวสารประมาณ 6-10 กิโลกรัม
3. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
4. ถุงพลาสติกใสชนิดทนร้อนขนาด 8 x 12 นิ้ว
5. ยางรัดปากถุง
6. สำลีและแอลกอฮอล์

วิธีการ

1. หุงปลายข้าวสารด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าให้สุกประมาณ 90% อย่าให้สุกมากเกินไปเพราะจะทำให้ข้าวแฉะ แล้วตักใส่ถุงพลาสติกประมาณ 200 กรัม

 

 

 

 

2. ใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดช้อนตัก พื้นโต๊ะบริเวณที่จะทำการถ่ายเชื้อให้สะอาด และใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช้ดมือผู้ท่จะทำการถ่ายเชื้อด้วย เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่โดยรอบไม่ให้ปนเปื้อน
3. ตักหัวเชื้อไตรโคเดอร์มาผง ประมาณ ครึ่งช้อนโต๊ะ ใส่ในถุงพลาสติกที่บรรจุข้าวไว้แล้ว และรัดปากถุงให้แน่น ขยำข้าวกับเชื้อเข้าด้วยกันเบาๆ อย่าให้เม็ดข้าวถูกบี้จนเละ เพราะต้องให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเพื่อการเดินของเส้นใยเชื้อราจะง่ายขึ้น (ขั้นตอนการถ่ายหัวเชื้อนี้ต้องเลือกสถานที่ที่สะอาดและต้องระมัดระวังการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์จากสิ่งแวดล้อม)

4. ใช้ปลายเข็มแทงถุงพลาสติกประมาณ 20 – 30 รู เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้ทั่วถุงแล้วแผ่ถุงข้าวให้แบนราบ

 

 

 

 

 

5. บ่มเชื้อไว้ในที่มีอากาศถ่ายเท มีแสงสว่างส่องถึงและปลอดภัยจากแมลงและมด เมื่อครบเวลา 2 วันจะเห็นเส้นใยของเชื้อราเริ่มเจริญ ให้ทำการขยำถุงข้าวเพื่อให้เชื้อกระจายตัวทั่วทั้งถุงแล้วบ่มต่ออีก 4-5 วัน จึงนำไปใช้

clip_image002[33]

 

เชื้อสด 7 วัน พร้อมนำไปใช้

 

 

 

 

 

 

 

 

 

6. วิธีการนำไปใช้
(1)   ผสมน้ำ กรองเศษข้าวออก เติมกากน้ำตาลเล็กน้อย นำไปฉีดพ่นได้ทันที ป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา
(2) ให้นำเชื้อสดผสมรำข้าว (รำละเอียด) และปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกเก่า อัตราส่วน 1:4:100 โดยน้ำหนัก คลุกผสมให้เข้ากัน แล้วโรยบนแปลงที่เตรียมไว้แล้วอัตรา 100 กรัม (ประมาณ 2 กำมือ) ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตรสำหรับลดเชื้อก่อโรคในดิน ก่อนการปลูกพืชประมาณ 1 สัปดาห์


(3) นำไปผสมดินปลูกด้วยอัตราส่วน 1:4 แล้วใส่ในกระบะเพาะเมล็ด หรือกระบะเพาะต้นพันธุ์พืช


(4)  ใช้รองก้นหลุมปลูกให้ใช้ประมาณ 2 ช้อนแกงต่อหลุม
(5)  หว่านแปลงปลูกพืช อัตรา 100 กรัมต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร

 

ต้นทุนการขยายเชื้อไตรโครเดอร์ม่า

หัวเชื้อไตรโครเดอร์ม่า      0.28 บาท/กรัม
ปลายข้าว                     9.00 บาท/ลิตร ( แบ่งได้ 7 ถุง )
ข้าว                            1.28 บาท/ถุง
ถุงพลาสติก+ยางรัด         0.25 บาท

ราคาไตรโครเดอร์ม่าพร้อมใช้ ราคา 1.81 บาท/ถุง

**ต้องการคำแนะนำในการเพาะเลี้ยงเชื้อราไตรโคเดอร์มา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท เอช ซี ซัพพลาย จำกัด โทร. 053-952256-7

Read full story

15 September 2008

เพิ่มภูมิต้านทานให้มะเขือม่วงด้วยการเสียบยอด

0 comments

โรคเหี่ยวแบคทีเรียในมะเขือม่วง

โรคเหี่ยวเขียวหรือโรคเหี่ยวจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียสาเหตุของโรคคือ Ralstonia solanacearum อาศัยอยู่ในดินและเข้าทำลายพืชทางรากหรือลำต้น สามารถแพร่ระบาดไปกับน้ำ วัสดุทางการเกษตรที่ใช้ อาการเหี่ยวจะเริ่มที่ใบบางส่วนและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้นตายได้ ถ้านำลำต้นมาตัดขวางจะพบว่าไส้กลางตัน มีอาการช้ำน้ำและสีเข้มกว่าต้นที่ไม่เป็นโรค  เมื่อพบต้นที่เป็นโรคเหี่ยวจะต้องทำการถอนและเผาทำลาย เพื่อป้องกันการระบาดของโรค

มะเขือม่วงเป็นพืชในตระกูล Solanaceae ซึ่งติดโรคเหี่ยวได้ดีที่สุดในทุกระยะของการเจริญเติบโต หากมีการติดโรคจะไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดระยะของการเก็บเกี่ยว ทำให้สูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีการเสียบยอดมาช่วยป้องกันโรคดังกล่าว โดยใช้มะเขือพวงพันธุ์พื้นเมืองมาเป็นต้นตอ ทำให้ได้ต้นกล้ามะเขือม่วงที่มีความต้านทานโรค หาอาหารเก่ง และเจริญเติบโตเร็ว นอกจากมะเขือม่วงแล้ว มะเขือพันธุ์อื่นๆก็สามารถใช้วิธีการเสียบยอดได้เช่นกัน

ต้นกล้ามะเขือม่วงเสียบยอด

เทคนิคการผลิตต้นกล้ามะเขือม่วงเสียบยอด

1. เลือกต้นกล้าที่จะใช้เสียบยอด ต้นกล้ามะเขือม่วงอายุประมาณ 1 เดือน และต้นกล้ามะเขือพวงอายุประมาณ 2 เดือน
2. ตัดยอดต้นกล้ามะเขือพวงเฉียงทำมุม 45 องศา สูงจากโคนต้นประมาณ 2 นิ้ว
3. ตัดยอดต้นกล้ามะเขือม่วงเฉียงทำมุม 45 องศา ให้มีความยาวจากปลายยอดถึงรอยตัดประมาณ 1.5 นิ้ว
4. เสียบสายยางเสียบยอดลงบนรอยตัดของต้นกล้ามะเขือพวง และนำยอดต้นกล้ามะเขือม่วงมาเสียบลงไป โดยให้รอยตัดแนบกันพอดี
5. นำเข้าโรงอบต้นกล้าประมาณ 10 วัน  จึงเอาออกมาคัดต้นกล้าที่เสียบติด  ทำการรดน้ำให้ปุ๋ยและพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตามปกติจนกว่าจะนำไปปลูก

ในช่วงฤดูหนาว (มกราคม-กุมภาพันธ์) มะเขือจะเจริญเติบโตช้า เนื่องจากอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ จึงควรเพิ่มเวลาในการเพาะเมล็ด และเพิ่มแสงให้กับต้นกล้าในเวลากลางคืนโดยใช้ไฟเดย์ไลท์ (Day Light) ส่วนในฤดูร้อนควรเพิ่มการรดน้ำเช้า-เย็น หรือให้น้ำโดยใช้ระบบพ่นน้ำแบบสเปรย์ เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุเพาะกล้า (media) แห้ง 


**ต้องการขอคำแนะนำในการผลิตต้นกล้ามะเขือม่วงเสียบยอด เข้าชมวิธีการผลิต  หรือสั่งซื้อต้นกล้า กรุณาติดต่อที่ บริษัท เอช ซี ซัพพลาย จำกัด โทร. 053-952256-7

Read full story

13 September 2008

การปลูกมะเขือม่วงญี่ปุ่น

1 comments

มะเขือ (Eggplant / Aubergine)

มะเขือที่นิยมปลูกและที่ซื้อขายกันทั่วโลกเป็นสายพันธุ์ Solanum melongena ในสายพันธุ์เดียวกันนี้ยังมีพันธุ์ย่อยๆ  มะเขือต่างพันธุ์จึงมีรูปร่าง ขนาด และสีสันแตกต่างกันไปมาก รูปทรงมีทั้งยาว รีแบบไข่ กลม กลมแป้น และแบบหลอดไฟ  สีก็มีทั้งเขียว ขาว ม่วง เหลือง  ขนาดมีทั้งเล็กเท่าไข่นกกระทา จนถึงที่ใหญ่กว่าหลอดไฟฟ้าตามบ้าน  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันอิทธิพลลัทธิการค้าทำให้ความหลากหลายของมะเขือลดลงเหลือเพียงไม่กี่พันธุ์ที่ต่างประเทศคุ้นเคยกัน  ได้แก่ มะเขือม่วงพันธุ์โตในตะวันตก และมะเขือม่วงยาวในจีนและญี่ปุ่น ซึ่งบางทีเรียกมะเขือญี่ปุ่น หรือมะเขือจีน
ปัจจุบันนี้มีแต่เมืองไทยเท่านั้น ที่ยังคงความหลากหลายของพันธุ์มะเขือไว้ได้จนมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของต่างประเทศ เฉพาะในสายพันธุ์ Solanum Melongena เราก็ยังมีมะเขือหลากหลายชนิดให้กิน เช่น มะเขือเปาะ มะเขือยาว มะเขือม่วง มะเขือจาน มะเขือขื่น มะเขือไข่ เป็นต้น 

 

มะเขือ..สุดยอดอาหารสมอง

เปลือกของมะเขือม่วงอุดมไปด้วยนาซูนิน (nasunin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปกป้องสมองจากการถูกทำลาย จึงควรรับประทานทั้งเปลือกเพื่อให้ได้รับคุณประโยชน์อย่างเต็มที่ นอกจากสารมหัศจรรย์ดังกล่าวแล้ว ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซี มีธาตุเหล็กและแคลเซียมบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นมะเขือยังช่วยลดโคเลสเตอรอลในเลือดได้ด้วย จึงน่าทึ่งในภูมิปัญญาของคนไทยที่นิยมใส่มะเขือลงไปในแกงกะทิต่างๆ  อย่างเช่น แกงเขียวหวาน เป็นต้น

ตรวจสอบคุณค่าทางโภชนาการจากมะเขือ

 

การปลูกมะเขือม่วงญี่ปุ่น

eggplant farm

1. การเตรียมแปลงและหลุมปลูก
ไถพรวนตากดิน 7 วัน ก่อนทำการยกแปลงควรหว่านโดโลไมท์ หรือปูนขาวในอัตรา 100 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ หรือตามสภาพดิน และอาจใช้ปุ๋ยอินทรีย์หว่านหลังแปลง ในอัตรา 100 – 200 กก./ไร่ การขึ้นแปลงควรทำหลังแปลงปลูกกว้าง 100-120 ซม. ร่องทางเดินกว้าง 100 ซ.ม. ระยะปลูกระหว่างต้น 100 ซม. พื้นที่ 1 ไร่ จะทำการปลูกได้ประมาณ 800 ต้น

 image

2. การปลูก
ปลูกแบบแถวเดี่ยวขุดหลุมรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ และฟูราดานคลุกเคล้าให้เข้ากันและปักไม้หลัก(ไม้หลักควรมีความยาวไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร ) รดน้ำในหลุมปลูกเมื่อน้ำซึมจนหมดแล้วจึงทำการปลูกโดยให้สูงกว่าหลังแปลง 1-2 นิ้ว และห่างจากไม้หลัก 2 นิ้ว การปฏิบัติดูแลรักษาช่วงหลังการปลูก โดยปลูกให้สูงกว่าหลังแปลง 1-2 นิ้ว และ ห่างจากไม้หลัก 2 นิ้ว ควรปฏิบัติดูแลรักษาช่วงหลังการปลูก เช่น การให้น้ำ ให้ปุ๋ย การฉีด พ่นสารเคมี

image

3. การปฏิบัติดูแลรักษา
หลังจากดอกแรกบานให้ทำการเด็ดกิ่งแขนง โดยเว้นกิ่งแขนงใต้ดอกแรกไว้ กิ่งแขนงถัดมาให้เด็ดออกให้หมด

4. การเก็บเกี่ยว
หลังการย้ายปลูกลงแปลงแล้วประมาณ 45-50 วัน จึงเริ่มทำการเก็บเกี่ยวโดยทำการเก็บผลผลิตทุกวัน อายุการเก็บเกี่ยวที่ดีที่สุดจะนาน 4 เดือน หากใส่ใจดูแลและมีการจัดการแปลงที่ดีจะสามารถให้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ประมาณ 5,000- 7,000 กิโลกรัม

5. ต้นทุนต่อไร่
เฉลี่ยประมาณ 15,000 บาท หากใช้ปุ๋ยอินทรีย์และสารชีวภัณฑ์ร่วมกับปุ่ยและสารเคมีก็จะช่วยควบคุมต้นทุนได้

 

**สนใจปลูกมะเขือม่วงญี่ปุ่น หรือต้องการคำแนะนำในการปลูก กรุณาติดต่อ บริษัท เอช ซี ซัพพลาย จำกัด โทร. 053-952256-7

Read full story

15 August 2008

Eggplant - Brain Food

0 comments
Research on eggplant has focused on an anthocyanin phytonutrient found in eggplant skin called nasunin. Nasunin is a potent antioxidant and free radical scavenger that has been shown to protect cell membranes from damage. In animal studies, nasunin has been found to protect the lipids (fats) in brain cell membranes. Cell membranes are almost entirely composed of lipids and are responsible for protecting the cell from free radicals, letting nutrients in and wastes out, and receiving instructions from messenger molecules that tell the cell which activities it should perform.
Read full story

17 June 2008

Available Products in July 2008

0 comments
GHERKIN

The gherkin is commonly found in slices littering an area of roughly one square mile around any fast food restaurant. However, this is not their natural state. In fact it isn't their natural state to be in fast food restaurants at all. The pickled gherkin is a pickled cucumber, and not a gherkin. There is no such thing as an un-pickled gherkin. But, nevertheless, if you take a young cucumber and preserve it in a jar of vinegar it becomes a gherkin.

Gherkins are believed to have been the first ever pickle and were enjoyed 4500 years ago in Mesopotamia. Cleopatra was a fan of pickles, as she believed that they would enhance her beauty. Roman legionnaires and Napoleon's troops all enjoyed their pickles too, and during the Second World War 40% of all pickles produced in the US were earmarked for the Armed Forces - it would seem that the humble gherkin is a serious aid to warfare.




The good: This food is low in Saturated Fat, and very low in Cholesterol and Sodium. It is also a good source of Vitamin A, Pantothenic Acid, Magnesium, Phosphorus and Manganese, and a very good source of Vitamin C, Vitamin K and Potassium.

The bad: A large portion of the calories in this food come from sugars.






EGGPLANT


The eggplant is a member of the nightshade (Solanaceae) family to it is akin to the potato, tomato as well as the tomatillo and chayote. Although we use the eggplant as a vegetable it is really a fruit. While there are many variations of eggplant the most common in the US are “Black Beauty” (the large, dark glossy typical grocery store variety) and Japanese, the long slender version sometimes light purple. If you follow some of the links in this article you will learn about an amazing array of eggplant fruits in various colors, shapes and sizes.The English actually gave the fruit the name of "eggplant" referring one one varieties shape which was similar to an egg. To much of Europe the eggplant is referred to as an "aubergine" and Italy it is called melanzana.


History
The eggplant is native to India and Pakistan and was first domesticated over 4000 years ago. The fruit was introduced to China around 500 B.C. The Chinese hybridized their own varieties of different shaped and colored eggplants.The migration of the eggplant continued in the 9 – 12th centuries to the Middle East and westward to Egypt. The moors introduced the eggplant to the Spaniards and the fruit became popular all over Europe. The Spaniards thought the eggplant was an aphrodisiac and referred to as “Berengenas” or “The Apple of Love”. This of course added greatly to the popularity of the unusual fruit.The love affair with the eggplant took a downward turn in Northern Europe where Albert of Cologne referred to the fruit as "Mala Insana" or "Mad Apples" (a take off of the Italian name "melanzana"). The fruit was thought to cause insanity if it was eaten. It seems the commoners got over that and by the 1600's several varieties migrated from Naples to Germany.While the Spaniards were traveling the globe they took the eggplant to South America around 1650. It was Thomas Jefferson (well known for his promotion of horticulture) who introduced them to the United States in 1806 after receiving an eggplant from a friend in France.

Eggplant Varieites
This is just a sampling of a few of the many eggplant varieties available.
Western (Globe) Eggplant - This is your common grocery store variety. They are typically large with glossy dark skin. Use for eggplant parmesan or nice large slices for frying or grilling. Or cut in cubes and use in our Turkey Eggplant Chili recipe.
Japanese or Asian - This is one of my favorites. The Japanese long, slender eggplant is great for small servings. Slice lengthwise and grill or bake. We used Japanese eggplant for our Eggplant Parmesan. Also you can slice thin and use to wrap other ingredients.
Egg Shaped - there are many egg-shaped varieties in purple, white and variegated like the picture above. These are fun to grow and are practical for some recipes.
Miniature or "baby" -
Amishlandseeds.com carries several varieties some the size or walnuts and other bright orange. The small varieties can be cooked more quickly and tend to be less bitter even with a little aging.

Uses
With such a long culinary evolution eggplant uses are many and include, grilling, frying, baking or stewing and dips. The practice of "breading" keeps the spongy fruit from absorbing too much oil when fried.Eggplants make a very good meat substitute for vegetarian cooking.

Medicinal Uses

Studies of the Institute of Biology of São Paulo State University, Brazil (Instituto de Biociências of the UNESP de Botucatu, São Paulo) showed that eggplant is effective in the treatment of high blood cholesterol hypercholesterolemia.
It can block the formation of free radicals, help control cholesterol levels and is also a source of folic acid and potassium.
Eggplant is richer in nicotine than any other edible plant, with a concentration of 100 ng/g (or 0.01mg/100g). However, the amount of nicotine from eggplant or any other food is negligible compared to passive smoking. Therefore, 20lbs of eggplant, on average, would contain about the amount of nicotine in an average cigarette.



The good: This food is very low in Saturated Fat, Cholesterol and Sodium. It is also a good source of Vitamin C, Vitamin K, Thiamin, Niacin, Vitamin B6, Pantothenic Acid, Magnesium, Phosphorus and Copper, and a very good source of Dietary Fiber, Folate, Potassium and Manganese.


The bad: A large portion of the calories in this food come from sugars.
Read full story
Related Posts with Thumbnails

H C Supply Co.,Ltd.. Get yours at bighugelabs.com

H C Supply Co.,Ltd.
162 Moo12 Weingkalong Sub-District, Weingpapao District, Chiangrai 57260 THAILAND
Tel. +66 (0)53 952 418 Fax. +66 (0)53 952 136
E-mail : hsuchuanfoods@hotmail.com
 

H C Supply Co.,Ltd. © 2008 Business Ads Ready is Designed by Ipiet Supported by Tadpole's Notez