โรคเหี่ยวเขียวหรือโรคเหี่ยวจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อแบคทีเรียสาเหตุของโรคคือ Ralstonia solanacearum อาศัยอยู่ในดินและเข้าทำลายพืชทางรากหรือลำต้น สามารถแพร่ระบาดไปกับน้ำ วัสดุทางการเกษตรที่ใช้ อาการเหี่ยวจะเริ่มที่ใบบางส่วนและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้นตายได้ ถ้านำลำต้นมาตัดขวางจะพบว่าไส้กลางตัน มีอาการช้ำน้ำและสีเข้มกว่าต้นที่ไม่เป็นโรค เมื่อพบต้นที่เป็นโรคเหี่ยวจะต้องทำการถอนและเผาทำลาย เพื่อป้องกันการระบาดของโรค
มะเขือม่วงเป็นพืชในตระกูล Solanaceae ซึ่งติดโรคเหี่ยวได้ดีที่สุดในทุกระยะของการเจริญเติบโต หากมีการติดโรคจะไม่สามารถเก็บผลผลิตได้ตลอดระยะของการเก็บเกี่ยว ทำให้สูญเสียรายได้ไปเป็นจำนวนมาก
ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีการเสียบยอดมาช่วยป้องกันโรคดังกล่าว โดยใช้มะเขือพวงพันธุ์พื้นเมืองมาเป็นต้นตอ ทำให้ได้ต้นกล้ามะเขือม่วงที่มีความต้านทานโรค หาอาหารเก่ง และเจริญเติบโตเร็ว นอกจากมะเขือม่วงแล้ว มะเขือพันธุ์อื่นๆก็สามารถใช้วิธีการเสียบยอดได้เช่นกัน
เทคนิคการผลิตต้นกล้ามะเขือม่วงเสียบยอด
1. เลือกต้นกล้าที่จะใช้เสียบยอด ต้นกล้ามะเขือม่วงอายุประมาณ 1 เดือน และต้นกล้ามะเขือพวงอายุประมาณ 2 เดือน
2. ตัดยอดต้นกล้ามะเขือพวงเฉียงทำมุม 45 องศา สูงจากโคนต้นประมาณ 2 นิ้ว
3. ตัดยอดต้นกล้ามะเขือม่วงเฉียงทำมุม 45 องศา ให้มีความยาวจากปลายยอดถึงรอยตัดประมาณ 1.5 นิ้ว
4. เสียบสายยางเสียบยอดลงบนรอยตัดของต้นกล้ามะเขือพวง และนำยอดต้นกล้ามะเขือม่วงมาเสียบลงไป โดยให้รอยตัดแนบกันพอดี
5. นำเข้าโรงอบต้นกล้าประมาณ 10 วัน จึงเอาออกมาคัดต้นกล้าที่เสียบติด ทำการรดน้ำให้ปุ๋ยและพ่นสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตามปกติจนกว่าจะนำไปปลูก
ในช่วงฤดูหนาว (มกราคม-กุมภาพันธ์) มะเขือจะเจริญเติบโตช้า เนื่องจากอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ จึงควรเพิ่มเวลาในการเพาะเมล็ด และเพิ่มแสงให้กับต้นกล้าในเวลากลางคืนโดยใช้ไฟเดย์ไลท์ (Day Light) ส่วนในฤดูร้อนควรเพิ่มการรดน้ำเช้า-เย็น หรือให้น้ำโดยใช้ระบบพ่นน้ำแบบสเปรย์ เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุเพาะกล้า (media) แห้ง
**ต้องการขอคำแนะนำในการผลิตต้นกล้ามะเขือม่วงเสียบยอด เข้าชมวิธีการผลิต หรือสั่งซื้อต้นกล้า กรุณาติดต่อที่ บริษัท เอช ซี ซัพพลาย จำกัด โทร. 053-952256-7
0 comments:
Post a Comment
เชิญร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น