ผักและผลไม้เป็นอาหารสุขภาพและยาที่กำลังเป็นที่สนใจมากขึ้น โดยเฉพาะการเป็นอาหารต้านมะเร็ง หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็น antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลว่า การปฏิบัติตนให้มีพฤติกรรมและการบริโภคที่เหมาะสม จะสามารถป้องกันมะเร็งได้ 30-40% ของโรคมะเร็งทั้งหมด และยังป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง ได้อีกด้วย การบริโภคที่เหมาะสมคือ
(1) เลือกทานอาหารที่ประกอบด้วยธัญพืช เช่น ถั่ว งา ข้าวโพด ข้าวกล้อง มันฝรั่ง มันเทศ ทานผักและผลไม้ให้มากเป็นประจำให้ได้อย่างน้อยวันละ 500 กรัม หรือมากกว่าครึ่งของปริมาณอาหารที่ทาน จะลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ 20% หรือมากกว่า
(2) ทานอาหารที่มีไขมันต่ำ โดยไม่ควรเกิน 25-30% ของปริมาณพลังงานทั้งหมดต่อวัน (ผู้ชายควรได้รับพลังงานวันละ 2,000 แคลอรี ผู้หญิงวันละ 1,500 แคลอรี)
(3) งดอาหารเค็มจัดและหวานจัด โดยเกลือต้องไม่เกิน 1 ช้อนชา และน้ำตาลไม่เกิน 3 ช้อนโต๊ะ ในอาหารทั้งหมดแต่ละวัน
จากผลสำรวจข้อมูลของประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2551 จากการประชุมเครือข่ายไม้ผลเมืองร้อน ได้ข้อมูลแนวโน้มของสิ่งที่ผู้บริโภคคำนึงถึงในการเลือกซื้อผักและผลไม้ ดังนี้
อันดับที่ 1 ราคา (Value, cost)
อันดับที่ 2 คุณภาพ (Product quality)
อันดับที่ 3 ความปลอดภัย (Food safety)
อันดับที่ 4 รสชาติ (Taste, Flavour)
อันดับที่ 5 ความสดใหม่ (Freshness)
อันดับที่ 6 วัสดุบรรจุภัณฑ์ (Packaing)
อันดับที่ 7 ยี่ห้อ (Brand)
อันดับที่ 8 คุณค่าทางโภชนาการ (Health, Nutrtion)
อันดับที่ 9 ความสะอาด ปราศจากสารเคมีตกค้าง (Clean, chemical free)
ผู้บริโภคจะไม่ได้พิจารณาเฉพาะตัวสินค้าเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกระบวนการผลิตที่ไม่ให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากนัก เป้าหมายหลักของการบริโภคผักและผลไม้ ก็คือ เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์แก่ร่างกาย ย่อยง่าย และมีคุณค่าทางยาทั้งเพื่อสุขภาพและความงาม รวมทั้งผักและผลไม้ที่ผลิตแบบอินทรีย์หรือแบบธรรมชาติจะมีบทบาทมากขึ้น (อ้างอิง: IGD, Shopper Trends in Products and Store Choice, 2007)
ประเด็นที่ผู้ผลิตควรพิจารณาก็คือ ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยให้มีการสูญเสียในการจัดการน้อยที่สุด เนื่องจากมีการพิจารณาถึงปริมาณการปลอดปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มำให้เกิดภาวะเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นทางจนถึงผู้บริโภค ด้วยการพิจารณาค่า carbon footprint ผู้บริโภคจะเลือกซื้อผักและผลไม้ที่ผลิตในประเทศหรือท้องถิ่นที่ไม่ห่างไกลมากกว่าเลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศที่ต้องขนส่งมาเป็นระยะทางไกลๆ มีการพิจารณาเลือกซื้อสินค้าที่วางจำหน่ายโดยไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ สรุปคือ สินค้าที่ผู้บริโภคต้องการมากจะเป็นผักและผลไม้ที่ผลิตตามแบบธรรมชาติ (nuturally healthy) และกลุ่มที่ผลิตในท้องถิ่น (locavore) ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้บริโภคที่จะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต
อ้างอิง : เคหะการเกษตร ฉ.9 กันยายน 2551
Download : อาหารและผลไม้ป้องกันมะเร็ง โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
0 comments:
Post a Comment
เชิญร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น