10 November 2008

ญี่ปุ่นผุดสวนผักบนดาดฟ้าตึกกลางกรุง ช่วยลดภาวะโลกร้อน ...ลดคนตกงาน

1 comments

ขณะที่สหรัฐอเมริกากำลังดีใจกับ "ผู้นำคนใหม่" ซึ่งถือได้ว่าเป็นการสร้าง"ปาฏิหาริย์" ครั้งยิ่งใหญ่ทางการเมือง ที่สหรัฐอเมริกากำลังจะมีประธานาธิบดีเป็นคนผิวสีครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังจากนายบารัค โอบามา สามารถคว้าชัยชนะในสนามเลือกตั้งมาได้อย่างงดงาม
ส่วนที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้ก็กำลังมี "สวนผักสไตล์ใหม่" ที่กำลังผุดขึ้นเรื่อยๆบนดาดฟ้าของตึกสูงใหญ่!!! สวนผักที่หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีใครกล้าคิดหรอกว่าจะได้เห็น แต่ตอนนี้กลับกำลังเป็นโครงการหนึ่งที่บริษัท พาโซนา กรุ๊ป ของญี่ปุ่น กำลังผลักดันให้แพร่ขยายผ่านโครงการที่ชื่อว่า พาโซนา โอทู (Pasona O2) ที่มีเป้าหมายต้องการสนับสนุนให้เจ้าของออฟฟิศ เจ้าของตึก สละพื้นที่บนหลังคาตึกหรือดาดฟ้ามาปลูกผัก ปลูกมัน เพื่อช่วยกันลดภาวะโลกร้อน แล้วยังเป็นการช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคารสำนักงาน ด้วยว่าสวนผักบนหลังคา จะช่วยลดทอนความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำให้ลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ แถมยังเป็นการสร้างอาชีพใหม่ให้แก่คนกรุงได้ด้วยในภาวะที่กำลังจะมีคนตกงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังทรุดหนัก ที่จะได้หันมาปลูกผักสดที่สะอาดปลอดสารพิษสารเคมีไว้ขายและรับประทานเองด้วย!!

ซายากะ อิทามิ หัวหน้าแผนกพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัทพาโซนา กรุ๊ป เล่าถึงแนวคิดที่ทำให้เกิดโครงการ พาโซนา โอทู ที่เธอเป็นผู้ดูแลโครงการนี้เองว่า "เราต้องการจะกระตุ้นธุรกิจภาคเกษตรกรรมให้คนสนใจ โดยเริ่มที่กลุ่มคนหนุ่มสาวเป็นอันดับแรก ด้วยการสร้างสวนผักรูปแบบใหม่ที่ดูสะอาดสดใสขึ้นกลางกรุงโตเกียว ซึ่งเราคิดว่าน่าจะทำให้คนหนุ่มสาวรู้สึกสนใจที่จะมาปลูกผักขายกัน"
แล้วโครงการนี้ก็กลายเป็นอาชีพใหม่ของนายโทโมฮิโร่ คิตาซาว่า หนุ่มกรุงวัย 31 ที่ตกงานจากสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จึงตัดสินใจลองมาปลูกผักขาย หลังจากพยายามหางานใหม่มาสักระยะแต่ก็ไม่ได้สักที

"ตอนแรกผมก็รู้สึกแปลกๆที่ต้องมาปลูกผัก แต่สักพักผมก็เริ่มเรียนรู้และรู้สึกชอบมากขึ้นเรื่อยๆ" คิตาซาว่าเล่าถึงสวนผักกาดหอมของเขาตอนนี้ ซึ่งมีด้วยกัน 6 แปลง ดูแล้วคล้ายห้องแล็บมากกว่าสวนผัก ด้วยว่าแต่ละแปลงจะถูกกั้นแบ่งด้วยประตูกระจกใส ที่สามารถเลื่อนเปิด-ปิดด้วยระบบอัตโนมัติ และมีระบบควบคุมอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศและแสงแดด เพื่อช่วยให้พืชผักเจริญเติบโตได้ดี
เนื่องจากเป็นโครงการที่น่าสนใจ และน่าจะช่วยทำให้สภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในกรุงโตเกียวดีขึ้น ด้านองค์การโทรศัพท์ของญี่ปุ่นก็ร่วมสนับสนุนโครงการนี้ด้วย โดยสละพื้นที่บนอาคารสาขา 2 แห่งให้พนักงานมาปลูกมัน ภายใต้โครงการชื่อ "กรีน โพเทโต" เนื่องจากใบของมันมีขนาดใหญ่สามารถแผ่ปกคลุมป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ดี แล้วยังทำให้พนักงานได้รับประทานมันต้มรสหวานในช่วงฤดูใบไม้ร่วงกันด้วย
ทั้งนี้นายมาซาฮีโร นากาตะ เจ้าหน้าที่แผนกพัฒนาสิ่งแวดล้อมขององค์การโทรศัพท์ เล่าว่า หลังจากได้เห็นผลสำเร็จของโครงการนำร่อง ตอนนี้ทางองค์การโทรศัพท์จึงมีเป้าหมายจะขยายโครงการกรีน โพเทโต ไปให้ทั่วประเทศ แล้วไม่ใช่มุ่งเจาะไปที่อาคารสำนักงานตึกใหญ่ๆเท่านั้น แต่ยังจะขยายไปยังโรงเรียนต่างๆด้วย โดยหวังว่านี่จะเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กนักเรียนในเมืองหลวงได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันก็สนุกกับการที่ได้มีส่วนผลิตพืชผัก อาหารที่งอกงามมาจากสองมือของพวกเขาเอง

 

ข้อมูลจาก : คอลัมน์ ร่อนตามลม มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 10 พฤศติกายน 2551

Read full story

06 November 2008

การผลิตขิง : การคัดเลือกท่อนพันธุ์ปลูกขิง

0 comments

ขิงเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวจัดอยู่ในพืชตระกูลเดียวกับข่าและกระชาย มีลำต้นใต้ดินสะสมอาหาร ลักษณะคล้ายนิ้วมือเรียกว่า " แง่งขิง"  ซึ่งเป็นส่วนที่ใช้ในการขยายพันธุ์ได้ นอกจากจะใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร สามารถนำมาแปรรูปได้ เช่นขิงดอง ขิงแช่อิ่ม ขิงผง ตลอดจนนำมาเป็นยาสมุนไพรได้ เช่น แก้ไอ เป็นยาระบายขับลมได้เป็นอย่างดี แหล่งปลูกที่สำคัญในประเทศไทยได้แก่ เชียงราย น่าน เพชรบูรณ์ เลย

การผลิตขิงแบ่งออกเป็น การผลิตเพื่อบริโภคสด การผลิตเพื่อป้อนเข้าโรงงานอุตสาหกรรม และการผลิตพันธุ์ขิง 

พันธุ์ขิง

ในการปลูกขิงจำเป็นจะต้องคัดเลือกพันธุ์ขิงที่ดีเพื่อใช้เป็นพันธุ์ปลูก โดยปลูกเพื่อใช้เก็บเป็นพันธุ์ขิงเฉพาะ การเตรียมพันธุ์ขิงพันธุ์ดีจึงต้องรู้จักคัดเลือกพันธุ์ขิง การเลือกพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกขิงทำพันธุ์ การดูแลรักษา เป็นต้น ซึ่งพันธุ์ขิงสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

   

(1) ขิงใหญ่หรือขิงหยวก จะมีแง่งใหญ่ ข้อห่าง เนื้อละเอียดไม่มีเสี้ยนหรือมีแต่น้อยมาก รสเผ็ดน้อย ใต้เซลล์ผิวเมื่อลอกเยื่อหุ้มอกจะไม่มีสีหรือมีสีเหลืงองเรื่อ ๆ ลักษณะของตาที่ปรากฏบนแง่ง กลมมน ลำต้นสูง ปลายใบป้าน เหมาะสำหรับปลูกเป็นขิงอ่อน ส่งโรงงานเพื่อแปรรูปเป็นขิงดอง ขิงแช่อิ่มหรือใช้บริโภคสดก็ได้

(2) ขิงเล็กหรือขิงเผ็ด จะมีแง่งเล็ก สั้น ข้อถี่ เนื้อมีเสี้ยนมาก รสค่อนข้างเผ็ด ลักษณะของตาที่ปรากฏบนแง่งค่อนข้างแหลม แตกแขนงดี นิยมปลูกเป็นขิงแก่ เพราะได้น้ำหนักดี ใช้ทำเป็นพืชสมุนไพรประกอบทำยารักษาโรค และสกัดทำน้ำมัน

 

สภาพพื้นที่การผลิตขิง

ขิงเป็นพืชทีสามารถเจริญเติบโตได้ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย ขิงเจริญเติบโตได้ดีที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ มีอินทรียวัตถุสูง การระบายน้ำดี มีความชื้นในอากาศสูง และอากาศค่อนข้างเย็นพื้นที่ที่เหมาะสมและนิยมปลูกขิงกันมากคือพื้นที่ภูเขาในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ส่วนบนพื้นที่ราบจะมีการปลูกขิงไม่มาก

 

การขยายพันธุ์ขิง

การเตรียมท่อนพันธุ์ขิง
เชื้อโรคแง่งเน่าที่เกิดจากแบคทีเรีย จะติดไปกับท่อนพันธุ์ขิงทำให้เกิดโรคระบาดในแปลงปลูก ดังนั้นต้องเตรียมท่อนพันธุ์ให้ดีอย่าให้เชื้อติดไป โดยปฏิบัติดังนี้
1. เลือกท่อนพันธุ์ขิงจากแหล่งที่ไม่มีโรคระบาดมาทำพันธุ์ เป็นท่อนพันธุ์ที่สมบูรณ์ ไม่มีร่อยรอยของการทำลายโรคและแมลง ข้อถี่ แง่งใหญ่ กลมป้อม ตาเต่ง เนื้อไม่นิ่ม ผิวเป็นมัน อายุประมาณ 10 - 12 เดือน
3. ทำการตัดแบ่งท่อนพันธุ์ขนาด 2-3 ตา ด้วย มีดที่สะอาดฆ่าเชื้อโรคแล้ว โดยแช่มีดในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคคือ แอลกอฮอล์ 70 % (แอลกอฮอร์ล้างแผล) หรือ คลอร็อกซ์(น้ำยาฟอกผ้าขาว) หรือ น้ำยาไฮเตอร์ 10% แนะนำให้ใช้มีด 2 เล่ม ตัดหัวพันธุ์ขิงสลับกัน โดยใช้มีดเล่มแรกตัดหัวพันธุ์ขิงเสร็จกันก็เอามีดแช่น้ำยาไว้เมื่อจะตัดหัวพันธุ์ขิงต่อไปก็เอาเล่มแรกที่แช่น้ำยาไว้มาตัด ใช้มีดสลับกันตัดจะป้องกันเชื้อติดไปกับมีดตัดท่อนพันธุ์
4. แช่หัวพันธุ์ขิงที่ตัดแล้วในน้ำยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย คือ ยาปฏิชีวนะ เตราซัยคลิน 40 แคบซูลต่อน้ำสะอาด 20 ลิตร เป็นเวลา 20-30 นาที นำขึ้นผึ่งในที่ร่มให้แห้งน้ำยาที่ใช้แล้ว ห้ามทิ้งไว้ข้ามคืนหรือโดนแสงแดดจะเสื่อมคุณภาพดังนั้นจะต้องเตรียมน้ำยาทุกครั้ง
5. นำหัวพันธุ์มาแช่ยากันราและแมลงอีกครั้ง เช่น เมตาแลกซิล กันโรคโคนเน่าจากเชื้อรา อัตรา 40-50 กรัม/น้ำ 20 ลิตร และยากันแมลง เช่น เพลี้ยหอย เพลี้ยแป้ง เช่น คลอร์ไพรีฟอส อัตรา 20-30 กรัม/น้ำ 20 ลิตร และผสมสารจับใบด้วย จะช่วยให้ยาติดท่อนพันธุ์ดีขึ้น

การเก็บเกี่ยวท่อนพันธุ์
ทำการเก็บเกี่ยวท่อนพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 เดือนหลังจากปลูก หรือสังเกตได้จากใบและลำต้นเริ่มเหี่ยวเฉา เมื่อขิงมีอายุย่างเข้าเดือนที่ 8 ในการเก็บเกี่ยวนั้นหากเป็นพื้นที่แห้งและแข็ง ให้รดน้ำที่แปลงเพื่อให้ดินอ่อนตัวก่อนจึงใช้มือดึงขึ้นมาก จากนั้นเขย่าดินออกทิ้ง ตัดรากและใบเหี่ยวออก แยกแง่งที่จะใช้สำหรับทำพันธุ์ โดยเลือกแง่งที่อวบใหญ่ปราศจากเชื้อโรค แมลง และไม่มีแผล

การเก็บรักษาท่อนพันธุ์ (Seed rhizome)
ขิงมีการพักตัว 1-3 เดือน จึงควรเก็บรักษาพันธุ์ขิงไว้ในที่เย็นและแห้ง โดยก่อนเก็บควรจุ่มสารเคมีป้องกันโรคและแมลงโดยนำหัวพันธุ์มาใส่ถุงตาข่ายไนลอน และแช่ในน้ำยาเคมี เช่น แมนเซ็ทดี 30-40 กรัม/น้ำ20ลิตร ผสมด้วยเมตาแลกซิล 30-40 กรัม/น้ำ 20 ลิตร และคลอร์ไพริฟอส อัตรา 20-30 ml./น้ำ 20 ลิตร โดยแช่ไว้นาน 10-15 นาที ก่อนนำมาผึ่งให้แห้งแล้วเก็บไว้บนแคร่หรือชั้นในที่ร่มอากาศถ่ายเทได้สะดวก จนกว่าจะได้เวลาปลูกไม่ควรกองแม่พันธุ์ขิงไว้บนพื้นดิน เพราะจะทำให้เกิดโรคและแมลงติดมายังหัวพันธุ์ที่เก็บรักษาได้

อ้างอิง : กรมวิชาการเกษตร

Read full story
Related Posts with Thumbnails

H C Supply Co.,Ltd.. Get yours at bighugelabs.com

H C Supply Co.,Ltd.
162 Moo12 Weingkalong Sub-District, Weingpapao District, Chiangrai 57260 THAILAND
Tel. +66 (0)53 952 418 Fax. +66 (0)53 952 136
E-mail : hsuchuanfoods@hotmail.com
 

H C Supply Co.,Ltd. © 2008 Business Ads Ready is Designed by Ipiet Supported by Tadpole's Notez